ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
1. ช่วยในการจัดการระบบข้อมูลหรือข่าวสาร ในแต่ละวันที่มีจำนวนมหาศาลได้
2. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในขบวนการผลิตสารสนเทศ ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณที่ยุ่งยากและซับซ้อน หรือการจัดเรียงระบบสารสนเทศ
3. ช่วยให้สามารถจัดเก็บสารสนเทศไว้ในสื่อและวิธีการ ที่สามารถเรียกใช้ได้สะดวก
4. ช่วยให้สามารถจัดระบบอย่างอัตโนมัติ เพื่อการจัดเก็บประมวลผล และสืบค้นหรือเรียกใช้สารสนเทศได้เป็นอย่างดี
5. ช่วยให้เข้าถึงการตอบสนองการใช้สารสนเทศได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากขึ้น
6. ช่วยในการสื่อสารระหว่างกันได้ในทุกระดับได้อย่างรวดเร็ว
บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศกับการศึกษา
1. การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน โดยการใช้คอมพิวเตอร์สร้างบทเรียน เพื่อให้นักเรียนสามารถทบทวนบทเรียนนอกเวลาเรียน เพื่อให้การเรียนการสอนบรรลุจุดประสงค์ของการศึกษามากยิ่งขึ้น
2. การศึกษาทางไกล เป็นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยในการจัดรูปแบบการศึกษาทางไกล โดยผู้เรียนกับผู้สอนสามารถสื่อสารกันได้ทันที
3. เครือข่ายการศึกษา เป็นการแบ่งเครือข่ายการศึกษาเพื่อให้ครูและนักเรียนสามารถแสวงหาความรู้ได้อย่างกว้างไกล
4. การใช้งานห้องสมุด โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสืบค้นหารายการหนังสือ และบริการยืม-คืนหนังสือได้
5. การใช้ห้องปฏิบัติการและการใช้ในงานบริการ”
(http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/network/it/index.html) รวบรวมและกล่าวถึงทฤษฎีนี้ว่า “เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การรวบรวมการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างรายงาน การสื่อสารข้อมูล ฯลฯ เทคโนโลยีสารสนเทศจะรวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดระบบการให้บริการ การใช้ และการดูแลข้อมูล
โดยพื้นฐานของเทคโนโลยีย่อมมีประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าได้ แต่เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวิถีความเป็นอยู่ของสังคมสมัยใหม่อยู่มาก ลักษณะเด่นที่สำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศมีดังนี้
· เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในการประกอบการทางด้านเศรษฐกิจ การค้า และการอุตสาหกรรม จำเป็นต้องหาวิธีในการเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารเข้ามาช่วยทำให้เกิดระบบอัตโนมัติ เราสามารถฝากถอนเงินสดผ่านเครื่องเอทีเอ็มได้ตลอดเวลา ธนาคารสามารถให้บริการได้ดีขึ้น ทำให้การบริการโดยรวมมีประสิทธิภาพ ในระบบการจัดการทุกแห่งต้องใช้ข้อมูลเพื่อการดำเนินการและการตัดสินใจ ระบบธุรกิจจึงใช้เครื่องมือเหล่านี้ช่วยในการทำงาน เช่น ใช้ในระบบจัดเก็บเงินสด จองตั๋วเครื่องบิน เป็นต้น
· เทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย เมื่อมีการพัฒนาระบบข้อมูล และการใช้ข้อมูลได้ดี การบริการต่าง ๆ จึงเน้นรูปแบบการบริการแบบกระจาย ผู้ใช้สามารถสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้าน สามารถสอบถามข้อมูลผ่านทางโทรศัพท์ นิสิตนักศึกษาบางมหาวิทยาลัยสามารถใช้คอมพิวเตอร์สอบถามผลสอบจากที่บ้านได้
· เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่าง ๆ ปัจจุบันทุกหน่วยงานต่างพัฒนาระบบรวบรวมจัดเก็บข้อมูลเพื่อใช้ในองค์การประเทศไทยมีระบบทะเบียนราษฎร์ที่จัดทำด้วยระบบ ระบบเวชระเบียนในโรงพยาบาล ระบบการจัดเก็บข้อมูลภาษี ในองค์การทุกระดับเห็นความสำคัญที่จะนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้
· เทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ พัฒนาการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของคนเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี ดังจะเห็นได้จาก การพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์ การใช้ตารางคำนวณ และใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมแบบต่าง ๆ เป็นต้น
บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศกับการศึกษา
เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดการกระจายไปทั่วทุกหนแห่ง แม้แต่ถิ่นทุรกันดาร ทำให้มีการกระจายโอการการเรียนรู้ มีการใช้ระบบการเรียนการสอนทางไกล การกระจายการเรียนรู้ไปยังถิ่นห่างไกล การเรียนการสอนในโรงเรียนมีการนำคอมพิวเตอร์และเครื่องมือประกอบช่วยในการเรียนรู้ เช่น วีดิทัศน์ เครื่องฉายภาพ คอมพิวเตอร์ช่วยสอน คอมพิวเตอร์ช่วยจัดการศึกษา จัดตารางสอน คำนวณระดับคะแนน จัดชั้นเรียน ทำรายงานเพื่อให้ผู้บริหารได้ทราบถึงปัญหาและการแก้ปัญหาในโรงเรียน ปัจจุบันมีการเรียนการสอนทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนมากขึ้น”
(http://blog.eduzones.com/kittipung/33214) รวบรวมและกล่าวถึงทฤษฎีนี้ว่า “เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง ตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า Information Technology หรือ IT เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดเก็บ ประมวลผล และเผยแพร่สารสนเทศ ซึ่งได้แก่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีการสื่อสาร และเทคโนโลยีคมนาคม
ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
1. เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้สังคมเปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมมาเป็นสังคมสารสนเทศ
2. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากระบบแห่งชาติไปเป็นเศรษฐกิจโลก ที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจของโลกผูกพันกับทุกประเทศ ความเชื่อมโยงของเครือข่ายสารสนเทศทำให้เกิดสังคมโลกาภิวัฒน์
3. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้องค์กรมีลักษณะผูกพัน มีการบังคับบัญชาแบบแนวราบมากขึ้น หน่วยธุรกิจมีขนาดเล็กลง และเชื่อมโยงกันกับหน่วยธุรกิจอื่นเป็นเครือข่าย การดำเนินธุรกิจมีการแข่งขันกันในด้านความเร็ว โดยอาศัยการใช้ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ และการสื่อสารโทรคมนาคมเป็นตัวสนับสนุน เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลได้ง่ายและรวดเร็ว
4. เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีแบบสุนทรียสัมผัส และสามารถตอบสนองตามความต้องการการใช้เทคโนโลยีในรูปแบบใหม่ที่เลือกได้เอง
5. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดสภาพทางการทำงานแบบทุกสถานที่และทุกเวลา
6. เทคโนโลยีสารสนเทศก่อให้เกิดการวางแผนการดำเนินการระยะยาวขึ้น อีกทั้งยังทำให้วิถีการตัดสินใจ หรือเลือกทางเลือกได้ละเอียดขึ้น
บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศกับการศึกษา
การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานด้านการศึกษา ที่นิยมประยุกต์ใช้ในปัจจุบัน ได้แก่
1. ระบบสารสนเทศช่วยในการเรียนการสอน
2. ช่วยในการวางแผนและการบริหารการศึกษา การวางแผนหลักสูตร และการบริการ
3. ช่วยในการทดสอบวัดผล การพัฒนาบุคลากร
4. ช่วยในการจัดเก็บระบบฐานข้อมูลการศึกษา”
สรุป
เทคโนโลยีสารสนเทศ หมายถึง การนำเทคโนโลยีมาใช้งานที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูล เพื่อให้ได้สารสนเทศ ซึ่งเทคโนโลยีที่ใช้เป็นการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีทางคอมพิวเตอร์ กับเทคโนโลยีการสื่อสารเพื่อช่วยในการสื่อสารส่งผ่านข้อมูลและสารสนเทศได้สะดวกรวดเร็วมากขึ้น
ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
1. เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้สังคมเปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมมาเป็นสังคมสารสนเทศ
2. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยให้เข้าถึงการตอบสนองการใช้สารสนเทศได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพมากขึ้น
3. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เกิดสภาพทางการทำงานแบบทุกสถานที่และทุกเวลา
4. เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่าง ๆ
5. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยในการสื่อสารระหว่างกันได้ในทุกระดับได้อย่างรวดเร็ว
บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศกับการศึกษา
1. การใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอน โดยการใช้คอมพิวเตอร์สร้างบทเรียน เพื่อให้นักเรียนสามารถทบทวนบทเรียนนอกเวลาเรียนได้
2. การศึกษาทางไกล เป็นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ช่วยในการจัดรูปแบบการศึกษาทางไกล โดยผู้เรียนกับผู้สอนสามารถสื่อสารกันได้ทันที
3. การใช้งานห้องสมุดและห้องปฏิบัติการต่างๆ โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสืบค้นหารายการหนังสือ และบริการยืม-คืนหนังสือได้
4. การวางแผนและการบริหารการศึกษา การวางแผนหลักสูตร และระบบการบริการ
5. การจัดเก็บระบบฐานข้อมูลการศึกษา
อ้างอิง
สหชาติ สรรพคุณ.(๒๕๕๐).เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ; กรุงเทพฯ
แหล่งที่มา : http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/network/it/index.html. เข้าถึงเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2554
แหล่งที่มา : http://blog.eduzones.com/kittipung/33214.เข้าถึงเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2554
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น